Paiste Masters Dark Flat Ride

Masters Dark Flat Ride มีน้ำหนักเบาปานกลาง (Medium Light) ในขนาด 20 และ 22 นิ้ว ที่เสริมเพิ่มเข้ามาในฉาบรุ่น Masters ด้วยโทนเสียงที่ดารค์ (Dark) และซับซ้อน (Complex) ในฉาบ Flat Ride โดยจะมีเสียงหัวไม้กลอง (Ping) ที่นุ่มนวลและไม่แหลมมากกลมกลืนกับความคลาสสิคของฉาบ Flat Ride และมีโทนเสียง Wash ที่ต่ำปนด้วยเสียง dirt เล็กน้อย

ในช่วงปลายทศวรรษ 1960 Paiste ได้พัฒนาแนวคิดของฉาบที่ไม่มีเบล (Bell) ส่งผลให้นวัตกรรมความคิดของฉาบแฟลตไรด์ (Flat Ride) ก่อกำเนิดขึ้นมา โดยได้รับการจดสิทธิบัตรระหว่างประเทศในขณะนั้น ถือได้ว่าเป็นการปฏิวัติโทนเสียงที่มีความชัดเจนและง่ายต่อการควบคุมและได้มากลายเป็นส่วนสำคัญของวงการดนตรีแจ๊ส วงดนตรีแจ๊สชั้นนำที่ช่วยหล่อหลอมแนวดนตรีแจ๊สสมัยใหม่ขึ้นมา

เนื่องจากไม่มีเบล (Bell) ฉาบ Flat Rides สามารถควบคุมได้ง่ายมาก โดยฉาบ Flat Ride จะไม่สร้างเสียงโอเวอร์โทน (Overtone) เสียงกระทบจากหัวไม้กลอง (Ping) ที่มีความความโปร่งใส ไม่รก และชัดเจน ซึ่งจะยังคงความชัดเจนไว้ในทุกระดับความดังเสียง โดยเฉพาะกับการตีเบาๆ และเข้ากันได้ดีกับแนวดนตรีแนวอคูสติก หรือเมื่อเล่นร่วมกับมือโซโล่ เนื่องจากฉาบจะไม่กลบเสียงดนตรีของวง แม้กระทั่งในการเล่นแบบไดนามิก

Masters เกิดขึ้นจากความประณีต ความพิถีพิถัน และ ความอุตสาหะในการผลิตฉาบด้วยมือจากโลหะผสม CuSn20 bronze เพื่อที่จะให้ได้เสียงของฉาบที่ดีและเหมาะกับดนตรีในหลากหลายสไตล์ โดยฉาบในซีรียส์นี้เริ่มต้นจากฉาบ Ride 11 รุ่น และได้เพิ่มฉาบ Crash และ Hi-Hat ในปีถัดๆ มาเพื่อเติมเต็มและเพิ่มความหลากหลายให้กับเสียงในซีรียส์นี้ โดยเกิดขึ้นมาจากประสบการณ์และศิลปะในการผลิตฉาบมาอย่างยาวนานผสมผสานกับแรงบันดาลใจและความเห็นจากมือกลองระดับโลก

ฉาบแต่ใบในรุ่น Masters จะมีเสียงที่มีเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวซึ่งเป็นการผสมผสานกันระหว่างความซับซ้อนของเสียงของฉาบสไตล์ตุรกีกับความใสและกังวานของเสียงฉาบในสไตล์สวิตเซอร์แลนด์ได้อย่างลงตัว